สุดคุ้ม! แพ็คคู่ เกราะป้องกันผิวและแสงแดด

สิวฮอร์โมน vs สิวอุดตัน ต่างกันยังไง?

by | Jun 4, 2025 | รักษาสิว

บทความ: สิวฮอร์โมน vs สิวอุดตัน ต่างกันยังไง?

1. ทำความเข้าใจก่อน: สิวมีหลายประเภท

สิว ไม่ได้มีแค่แบบเดียว และแต่ละประเภทมีที่มาและการดูแลที่แตกต่างกัน หลายคนอาจสับสนว่า “สิวฮอร์โมน” และ “สิวอุดตัน” คือสิ่งเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองมีสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาที่ไม่เหมือนกัน การแยกความแตกต่างให้ชัดเจนจะช่วยให้คุณดูแลผิวได้อย่างถูกวิธีและลดโอกาสการเกิดซ้ำ

2. สิวอุดตันคืออะไร?

สิวอุดตัน (Comedonal Acne) เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนโดยไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ:

  • สิวหัวเปิด (หัวดำ)
  • สิวหัวปิด (หัวขาว)

สิวอุดตันมักไม่เจ็บ แต่หากปล่อยไว้อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้ จุดสังเกตคือมักพบบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง

3. สิวฮอร์โมนคืออะไร?

สิวฮอร์โมน (Hormonal Acne) มักเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน ที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น อาการมักเป็นสิวอักเสบ สิวหัวหนอง หรือสิวใต้ผิวหนังที่เจ็บและกดไม่ออก มักเกิดบริเวณกราม คาง และช่วงก่อนมีประจำเดือน

4. สาเหตุของสิวอุดตัน

สิวอุดตันมีสาเหตุหลักมาจาก:

  • การล้างหน้าไม่สะอาด
  • การใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน
  • การผลัดเซลล์ผิวไม่สมดุล
  • พฤติกรรมสัมผัสใบหน้าบ่อย

สิ่งเหล่านี้ทำให้ไขมันและสิ่งสกปรกสะสมจนเกิดการอุดตัน

5. สาเหตุของสิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนมักเกี่ยวข้องกับ:

  • วัยรุ่นที่ฮอร์โมนแปรปรวน
  • ผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดือน
  • การใช้ยาคุมกำเนิดหรือหยุดใช้
  • ภาวะเครียดเรื้อรัง
  • กลุ่มโรคเช่น PCOS (ถุงน้ำในรังไข่)

ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นการผลิตน้ำมันและการอักเสบของผิว

6. ลักษณะของสิว: เปรียบเทียบแบบเห็นภาพ

| ประเภทสิว | สิวอุดตัน | สิวฮอร์โมน |
|——————|—————————————-|——————————————|
| ลักษณะ | หัวขาว หัวดำ ไม่อักเสบ | สิวอักเสบ แดง เจ็บ มีหัวหนองหรือก้อนใต้ผิว |
| พื้นที่ที่พบ | หน้าผาก จมูก คาง | กราม คาง รอบปาก |
| ความถี่ | ขึ้นได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่ดูแลผิวดีพอ | มักเกิดซ้ำตามรอบเดือน หรือช่วงเครียด |
| การรักษา | ใช้ BHA, AHA, สครับเบา ๆ | ใช้ยาเฉพาะทางหรือควบคุมฮอร์โมน |

7. วิธีดูแลสิวอุดตันให้ได้ผล

แนวทางเบื้องต้น:

  • ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยนวันละ 2 ครั้ง
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี BHA หรือ Salicylic Acid
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมัน (non-comedogenic)
  • ไม่บีบหรือกดสิว เพราะจะกระตุ้นการอักเสบ
  • ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าและปลอกหมอนสม่ำเสมอ

การดูแลสม่ำเสมอสามารถลดการเกิดสิวอุดตันได้อย่างต่อเนื่อง

8. วิธีดูแลสิวฮอร์โมนแบบตรงจุด

สิวฮอร์โมนต้องดูแลทั้งภายนอกและภายใน:

  • ปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้ยาคุมหรือยาควบคุมฮอร์โมน
  • ใช้เจลแต้มสิวที่มีตัวยา เช่น Benzoyl Peroxide หรือ Retinoids
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด
  • เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงและไขมันอิ่มตัว
  • ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อดูระดับฮอร์โมนในร่างกาย

การควบคุมภายในสำคัญไม่แพ้การดูแลภายนอก

9. ข้อควรระวังในการรักษาสิวทุกประเภท

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัวในเวลาเดียวกัน
  • หากมีอาการแพ้หรือแสบแดง ควรหยุดใช้ทันที
  • อย่ารักษาเองเกิน 2 สัปดาห์โดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • หมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวเพื่อปรับแผนการรักษา

10. สรุป: เข้าใจประเภทสิว เพื่อการรักษาที่ตรงจุด

การแยกแยะว่าเป็น สิวอุดตัน หรือ สิวฮอร์โมน จะช่วยให้คุณเลือกแนวทางดูแลผิวได้แม่นยำขึ้น สิวแต่ละประเภทมีต้นเหตุต่างกัน การรักษาจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับร่างกายและสภาพผิว การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืนที่สุด เพื่อให้คุณกลับมามั่นใจในผิวที่ใสไร้สิวอีกครั้ง


บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อจุดประสงค์ให้ความรู้ทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากมีสิวรุนแรงหรือเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาที่เหมาะสม